เมื่อหลายเดือนก่อนแฟนเพจเฟสบุ๊ก : The Hope Thailand ได้เผยเรื่องราวเอาไว้ว่า ชั้นเห็นน้ำตาของแกนะปุย “ขอโทษนะที่ต้องจับแก ชอโทษที่ต้องพรากความรักของแกออกจากนายของแกนะ และเพื่อนหมาอีก 2 ตัวที่แกรัก เรื่องของเรื่องคือผมลงพื้นที่เขตตลิ่งชันร่วมกับ สนข. และ สนอ.
เนื่องจากมีเหตุเพราะมีการร้องเรียนว่าสุนัขฟัดคนและไล่รถริมอยู่ที่ถนนบรมราชชนนี ผมลงพื้นที่ตรวจสอบอย่างละเอียดพบว่าเมันกิดขึ้นจริง. “ปุย” หมาน้อยที่ถูกคนเอามาปล่อยได้ฟัดคุณตาวัย 80 ปีที่เดินผ่านมา. และชอบวิ่งไล่กวดรถอยู่หลายครั้งจนเกือบเกิดอุบัติเหตุ “ปุย” หมาเพศผู้ อายุน่าจะราวๆ 4-5 ปี
ถูกคนนำมาปล่อยได้ร่วมปีกว่าๆ น้องต้องใช้ชีวิตจรอยู่ข้างถนนแถวใต้ทางด่วนกับเพื่อนๆอีกสองตัวคือเจ้า”ด่าง และตาล” โดยมี “สมหวัง” ชายขับแท็กซี่ผู้อารีย์คอยแบ่งปันข้าวให้น้องได้กินมาตลอด ด้วยสัญชาตญาณบางอย่างรวมทั้งการที่ยังไม่ได้ทำหมันด้วย ทำให้ปุยไม่ชอบรถจักรยานและมอเตอร์ไซด์ทุกชนิด
รวมไปถึงคนแก่ที่เดินงกๆเงิ่นๆ น้องแกจึงชอบวิ่งไล่อยู่เป็นประจำแต่…ปุยก็เป็นขวัญใจของคนขับแท็กซี่แถวๆนั้น.เพราะกับคนทั่วไปแล้ว ปุยเป็นมิตรมากและยังขี้เล่นขี้อ้อน โดยเฉพาะกับ”สมหวัง”เจ้านายที่ปุยรัก ก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน ปุยไปงับขาคุณตาท่านหนึ่งที่เดินอยู่ริมถนน จนต้องเสียเงินในการรักษา
ผมลงพื้นที่ไปที่ปุยอยู่เห็นตามภาพ ปุยและด่าง และ ตาลนอนเล่นอยู่กับสมหวัง อยู่ริมถนนใต้ทางด่วนอย่างมีความสุข โดยที่ทั้งสี่ชีวิตตรงหน้าไม่รู้เลยนะว่าเหตุการณ์ความพลัดพรากกำลังจะเกิดขึ้น ผมเดินเข้าไปหาปุยเพียงคนเดียว เพราะผมอยากรู้ว่าเค้าดุแค่ไหน? แต่ผลปรากฏว่า
ปุยลุกเดินกระดิกหางเข้ามาหาผมอย่างเป็นมิตรและมาดมที่กางเกง ภาพตรงหน้ามันทำให้ผมเจ็บมาก ผมอยากให้เค้าเดินมาฟัดผมหรือเห่าไล่ผมซะยังดีกว่า ผมเลยคุยกับสมหวังจึงได้รู้ในรายละเอียดตามที่เล่ามา และสมหวังยอมรับว่าปุยชอบไล่รถจริง และไม่ชอบคนแก่หรือคนที่แต่งตัวรุงรัง “สมหวัง” รักปุย ด่าง และ ตาล มาก
แต่ไม่สามารถนำไปอยู่ด้วยได้เพราะตนเองก็เช่าห้องเช่าห้องเล็กๆอยู่ ปุย วิ่งเล่นกับเพื่อนต่อสลับกับการกระดิกหางเดินมาให้สมหวังลูบหัว ผมตัดสินใจไม่จับปุย โดยจะประสานให้ทางมูลนิธิซอยด็อกลงพื้นที่ทำหมันย่านนี้ทั้งหมดและโดยเร็วที่สุด ซึ่งในช่วงที่มาลงพื้นที่ก็จะให้สมหวังนำปุยและเพื่อนทั้งสองตัวไปทำหมันพร้อมๆกันเลย
ระหว่างนี้ก็ขอให้ช่วยควบคุมดูแลปุยอย่าให้ไปฟัดใครเข้าอีก ส่วนเรื่องของคุณตาที่ร้องเรียนมา หากยังมีการร้องเรียนเข้ามาซ้ำอีก. ผมจะขอเป็นผู้รับผิดชอบต่อเหตุร้องเรียนนี้เอาไว้เอง สมหวังเมื่อได้ยินก็ยิ้มและยกมือไหว้ขอบคุณ และผมก็บอกกับปุยว่าขอให้อยู่อย่างสงบนะ คราวหน้าชั้นคงช่วยแกไม่ได้แล้วนะ”
และหลังจากนั้นพวกเราทุกคนก็ขึ้นรถของแต่ละคนเตรียมขับกลับออกไป ทันใดนั้นเสียง โครมดังสนั่น รถคันหน้าผมเบรคกะทันหันหลังจากรถเคลื่อนตัวได้ไม่ถึงครึ่งนาที ปุยไปไล่รถจักรยานที่มีคุณลุงคนนึงขี่อยู่จนล้มไปชนแท็กซี่ที่วิ่งสวนมา ผมและน้องๆลงไปช่วยคุณลุง แต่โชคดีที่คุณลุงไม่เป็นอะไรมาก
แค่ถลอกนิดหน่อยและคุณลุงก็ไม่เอาความผิดกับปุย ผมตัดสินใจจับตัวปุยออกนอกพื้นที่เพื่อระงับทุกเหตุที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ไม่ว่าจะเกิดกับประชาชนหรือตัวปุยเองก็ตาม ถ้าปล่อยให้เหตุการณ์เกิดขึ้นแบบนี้ ปุยเองคงโดนกระทำจนสิ้นลม ผมบอกให้น้องทีมสำนักอนามัยเตรียมกรง
สมหวังอุ้มปุยมาใส่กรงด้วยน้ำตาคลอเบ้า “ด่าง”เดินมาส่งปุยถึงกรง โดยที่ไม่ได้กลัวว่าเค้าจะจับตัวเองไปด้วย ตาลนอนมองอยู่นิ่งๆ ปุยก็ทำหน้าเศร้ามาก ไม่มีอาการดุหรือขัดขืนอย่าง แว่บหนึ่งที่ผมมองไปในกรง ผมเห็นน้ำตาปุยไหลออกมาอย่างเห็นได้ชัด
เป็นที่แน่นอนว่า ความรักทั้ง 4 ถูกพรากจากกันโดยการตัดสินใจบนความจำเป็นของตัวผมเอง ผมจำเป็นต้องจับปุยไปไว้ที่พักไว้ที่ประเวศก่อน “ขอโทษแกอีกครั้งปุย. หวังว่าแกคงเข้าใจ..และรอนะ เห็นน้ำตาแกไหล…. ชั้นเองก็ไหลเหมือนกัน”
ที่มา The Hope Thailand